วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

นิทานเรื่องการแจ้งความร้องทุกข์ โดย นายปกรณ์ นิลประพันธ์

ในยุคบาบิโลนหรือเมื่อราว 612 ปีก่อนคริสตกาล คนเลี้ยงแกะสองคนเกิดทะเลาะกันขึ้น เพราะเช้าวันหนึ่ง คนเลี้ยงแกะคนหนึ่งไปนับจำนวนแกะของแก และพบว่ามันหายไปหนึ่งตัว แกจึงไปนับแกะในคอกของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันและเห็นว่ามันมีมากกว่าเดิมตัวหนึ่ง แกจึงไปบอกให้ชายเพื่อนบ้านเจ้าของคอกแกะนั้นคืนแกะให้เขาเสียแต่โดยดี ชายเพื่อนบ้านยืนยันว่าคอกของเขามีแกะครบถ้วน ไม่ขาด ไม่เกิน แกมารู้ดีกว่าฉันได้อย่างไรว่าแกะฉันเพิ่มขึ้นมา แกจะมาตู่เอาแกะฉันใช่ไหม ชายสองคนจึงทุ่มเถียงกันจนแทบจะตีกันตาย
การทะเลาะเบาะแว้งนี้ขยายวงกว้างไปในหมู่บ้านด้วย คนในหมู่บ้านแบ่งเป็นสามฝ่าย ญาติสนิทมิตรสหายของชายแกะหายฝ่ายหนึ่ง ญาติสนิทมิตรสหายของชายเจ้าของคอกแกะที่ถูกกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่ง สองฝ่ายนี้ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันราวกับอยู่ในเหตุการณ์ ส่วนที่เหลือในหมู่บ้านไม่รู้จะเชื่อใครดีก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย หมู่บ้านที่เคยอยู่กันสงบสุข ช่วยเหลือเจือจุนกันมานมนานกลายเป็นวิวาทกันทุกหย่อมหญ้า ชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนจึงเสนอทางออกให้คู่กรณีไปหาผู้เฒ่าซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้านเพื่อช่วยตัดสินความ

ผู้เฒ่าถามคนแกะหายว่าแกะของสูมีกี่ตัว คนแกะหายตอบว่ามีกี่ตัวไม่รู้ เพราะคนจดเขาจดบันทึกไม่ละเอียด ผู้เขียนจึงอุปมาเอาเพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเขาตอบว่ามี 100 ตัว แต่มันหายไป 1 ตัวเจ้าข้า ผู้เฒ่าถามต่อไปว่าแล้วสูรู้ได้อย่างไรว่าแกะหาย เขาตอบว่านับแล้วมันหายไป ผู้เฒ่าถามว่าตอนมันหายไปสูเห็นไหม เขาตอบว่าเมื่อค่ำวานตอนต้อนแกะไปเข้าคอกมันยังอยู่ครบ น่าจะหายไปตอนกลางคืนเจ้าข้า อ้าว!แล้วสูรู้ได้ยังไงว่าอีตาคนนั้นมันเอาแกะของสูไป ผู้เฒ่าถามต่อ เขาตอบว่าเขาไปนั่งนับแกะของอีตาคนนั้นแล้วพบว่ามันมีเกินมาตัวหนึ่ง ผู้เฒ่าถามว่าแล้วสูรู้ไหมว่าแกะตัวที่หายนั่นมีหน้าตายังไง มีตำหนิตรงไหน เขาตอบว่าไม่รู้ เพราะว่ามันเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่รู้ว่าแกะคอกข้าง ๆ มันมีเพิ่มมาอีกตัว 

ผู้เฒ่าจึงหันไปถามเจ้าของคอกแกะข้าง ๆ ว่าคอกสูมีแกะกี่ตัว เขาตอบว่ามีจำนวนเท่าใดไม่รู้เพราะไม่มีบันทึกไว้ อุปมาว่าเขาตอบว่ามี 201 ตัวก็แล้วกัน เขานับของเขาทุกวัน ไม่มีแกะหลงมาเข้าคอกเขาแน่ ๆ เพราะเขาต้อนแกะเข้าคอกเสร็จก่อนอีตาคนกล่าวหาเขาเสียอีก ตอนกลับมาเขายังทักทายเมียของอีตาคนกล่าวหาเขาอยู่เลย เมียของอีตาคนนั้นยังบอกว่าสงสัยผัวจะแอบไปแวะไหนก่อนเป็นแน่

ผู้เฒ่าฟังความแล้วจึงหันไปบอกแก่ชายผู้กล่าวหาว่า สูไม่เห็นว่าใครเอาแกะของสูไป แกะที่หายของสูหน้าตาเป็นอย่างไรสูก็ไม่รู้ สูจะไปตู่ว่าคนนั้นคนนี้เอาแกะของสูไปไม่ได้ จะไปเรียกให้คนนั้นคนนี้เอาแกะของเขามาให้สูเองก็ไม่ได้ ที่สูทำอยู่นี่มันก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในหมู่บ้านเราเห็นไหม ที่ถูกต้องนั้นสูต้องไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้เขาตามหาให้ ไม่ใช่เที่ยวไปกล่าวหาเอง ตัดสินเอาเองอย่างนี้ ...

ทราบไหมครับว่า เรื่องนี้เป็นที่มาของหลักการแจ้งความร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญาที่ใช้กันทั่วโลกในเวลานี้

เรื่องมันมีที่มาครับ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น